ลืมมือถือบนแท็กซี่ คนขับเอาไปใช้ไม่ยอมคืน - one31

ponselutamas.blogspot.com

ดู 7,676 ครั้ง

ประจำวันที่ 23 มิถุนายน 2563

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ แป้งหอม สมหทัย ด่านกระโทก โพสต์ข้อความช่วยเหลือ ลูกสาวลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนรถแท็กซี่ พยายามโทรหาแล้วแต่ไม่มีคนรับเลย จะซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้ลูก แต่ลูกกลับบอกว่า หนูอุตส่าห์ช่วยยายขายของ ทำงานเก็บเงินซื้อเอง มันเป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของหนู มันมีข้อมูลการเรียน มีคลิปของหนูของน้องของยายที่หนูอัดไว้เต็ม มันมีความทรงจำต่างๆ หนูอยากได้เครื่องเดิมได้มั้ยแม่ ถ้าแม่ติดต่อลุงได้ หนูขอคืนได้มั้ย หนูจะทำงานช่วยแม่ทุกอย่าง

เมื่อโพสต์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฎว่า มีชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของแท็กซี่คนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งแชร์โพสต์ออกไปเพื่อช่วยตามหาอีกด้วย

ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปยังบ้านของเจ้าของเฟซบุ๊ก ในอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อพูดคุยกับนางสาวสมหทัย ด่านกระโทก ทราบว่า ช่วงบ่าย 3 โมงเย็น ของวันที่ 15 มิถุนายนที่ ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยครอบครัว ไปทำธุระที่กรุงเทพฯ และได้นั่งรถแท็กซี่จากเสือป่าเพื่อเดินทางกลับที่พัก พอลงจากรถ ไม่ถึง 5 นาที ลูกสาว วัย 11 ปี ก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนรถแท็กซี่ ตนจึงรีบโทรเข้าไปยังเบอร์ของลูกสาวจำนวนกว่า 20 ครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับ

จากนั้นวันที่ 16 มิถุนายน ตนและครอบครัวก็ได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดนครราชสีมา กระทั่ง ต่อมา วันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกได้ใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของพี่สาวเล่นเฟซบุ๊ก ก็พบว่า รูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กของลูกสาวกลับเปลี่ยนเป็นรูปของคุณลุงคนขับแท็กซี่ และพยายามโทรศัพท์ไปหา แต่คราวนี้กลับติดต่อไม่ได้ ขณะที่เด็กหญิง วัย 11 ปี ได้วิงวอนให้คนขับแท็กซี่นำโทรศัพท์มาคืน หากนำมาคืนจริงจะไม่แจ้งความดำเนินคดีเลย

ล่าสุดนางสาวสหทัย โพสต์ข้อความว่า "ในกรณีที่น้องฟางลืมโทรศัพท์ไว้บนรถแท็กซี่ ความเป็นจริงไม่ได้อยากไห้เป็นข่าวใหญ่โตอะไรเลยค่ะ เพราะส่วนหนึ่งความผิดพลาดก็เกิดมาจากความประมาทไม่รอบคอบของตัวเราเองด้วยที่ไม่ตรวจดูสิ่งของให้ดีก่อนลงรถ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วการที่โพสต์ลงไปคือต้องการแค่ เผื่อใครรู้จักหรือพบเห็นคุณลุง อาจจะช่วยพูดคุยไห้คุณลุงติดต่อกลับมา หรือฝากผ่านคนกลางให้เอามาคืนให้

โดยส่วนตัวตอนนี้ คิดว่า ถ้าได้คืนก็จะส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของลูกมากๆ แต่!!! ถ้าจะไม่ได้คืนจริงๆ ก็จะขอฝากไห้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือผู้โดยสารทุกท่าน ไห้คอยตรวจสอบสิ่งของต่างๆไห้รอบครอบก่อนลงรถทุกครั้งค่ะ

ส่วนคุณลุงเราขอฝากถึงแค่ว่า ถ้าคุณลุงจะคืนไห้ หนูขอรับรองว่าจะไม่เอาเรื่องอะไรเลยค่ะ ตอนนี้หลายๆ คนอาจจะรู้จักหน้าคุณลุงแล้ว หนูไม่อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายอาชีพหรืออนาคตของคุณลุงเลยค่ะ แต่หนูขอแค่ไห้คุณลุงเห็นใจและสงสารเด็กคนนึงค่ะ สภาพจิตใจน้องแย่มาก ยิ่งตอนนี้น้องยิ่งมีความหวัง มูลค่าของโทรศัพท์มันอาจจะไม่กี่บาท ไม่ถึงพันด้วยซ้ำ แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจของลูกสาวหนูมากๆค่ะ มันประเมินค่าไม่ได้เลย หนูขอร้องคุณลุงจริงๆค่ะ หรือถ้าลุงจะปฎิเสธ หนูก็อยากไห้ลุงออกมาชี้แจงว่าลุงไม่ได้ทำไม่ได้เอาไปจริงๆ ขอบคุณมากๆค่ะ"

[embedded content]