Search

ข่าวปลอม! เล่นมือถือในที่มืด จะทำให้เป็นมะเร็งตา หรือตาบอดถาวร - ผู้จัดการออนไลน์

ponselutamas.blogspot.com


ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานานนั้นเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งตาแต่อย่างใด ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งตา ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินในดวงตา หรือเกิดจากความผิดปกติของยีน

ตามที่มีข้อความแนะนำ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเล่นมือถือในที่มืด จะทำให้เป็นมะเร็งตา หรือตาบอดถาวร ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการโพสต์เตือนภัยเรื่อง เล่นมือถือในที่มืดเป็นเวลานาน จะทำให้เป็นมะเร็งตาหรือตาบอดถาวร ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ยืนยันว่า การเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานาน นั้นเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งตาแต่อย่างใด

โดยผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์หรือเล่นโทรศัพท์นานๆ จะมีการใช้สายตาเพ่งหน้าจอตลอดเวลา ทำให้เกิดอาการตาล้า หรือตาแห้ง ตาแดงเนื่องจากมีการกระพริบตาที่น้อยลงอาจทำให้เกิดอาการเคืองตาได้ง่าย ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งตา ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินในดวงตา หรือเกิดจากความผิดปกติของยีน เป็นต้น

สำหรับคนไทยโรคมะเร็งตาในผู้ใหญ่พบได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม สามารถพบได้ในเด็กและมักมีอายุต่ำกว่า 5 ปี คือ โรคมะเร็งจอประสาทตา ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม แต่ก็เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยเช่นกัน

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ift.tt/3de3Ujh หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02-202-6800




June 25, 2020 at 04:20AM
https://ift.tt/2A0ABCm

ข่าวปลอม! เล่นมือถือในที่มืด จะทำให้เป็นมะเร็งตา หรือตาบอดถาวร - ผู้จัดการออนไลน์

https://ift.tt/3dK0u8i


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ข่าวปลอม! เล่นมือถือในที่มืด จะทำให้เป็นมะเร็งตา หรือตาบอดถาวร - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.